Hacienda - coffee house
ร้านกาแฟสไตล์อังกฤษ ตัวอย่างการแบรนด์ดิ้งร้านที่ชัดเจน
ในวันที่พี่เจ้าของร้านแฮซซิเอนด้าติดต่อมาหาเราเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว ให้ออกแบบโลโก้ร้านให้ โดยอธิบายถึงรูปร่างของตึกที่ต้องการให้วาดใส่ในโลโก้ โดยอ้างอิงจากอาคารเก่าที่จะนำมาปรับปรุงเป็นร้านกาแฟ และต้องการให้เป็นลายเส้นที่ให้ความรู้สึกของการวาดด้วยมือ กับวันนี้ที่เรามีโอกาสได้ไปสัมผัสกับร้านจริง มันชัดเจนมากเลยว่าพี่เค้าเห็นภาพของร้านเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มแรก
Hacienda มองเห็นตัวเองเป็นร้านสไตล์ old english วินเทจ คลาสสิค ให้บริการครบจบในที่เดียว ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม หากลองค้นหาดู ทุกรีวิวจะบอกว่าร้านนี้ สวยและบรรยากาศดี
ในบทเรียนของการสร้างแบรนด์นั้น มักจะบอกว่า การมีแบรนด์ ไม่ได้หมายถึง แค่การมีโลโก้ หรือการแปะโลโก้ลงบนทุกสิ่งภายในร้าน แต่การมีแบรนด์ หรือการมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ชัดเจน เกิดจากหลายๆ อย่างประกอบกัน ทำให้เรารู้สึกว่า แบรนด์นั้นมีบุคลิกเป็นอย่างไร
การรับรู้แบรนด์ของคนเรา ก็รับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ซึ่งทำได้ครบและชัดเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลให้ลูกค้ารับรู้ตัวตนของแบรนด์ชัดมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งถือว่า ร้าน Hacienda ทำได้ดีทีเดียว
ขออนุญาตยืมรูปสวยๆ จาก jeban.com นะคะ (รูปตัวเองถ่ายไม่ค่อยสวยเลย ><)


อย่างแรกที่สัมผัสและเด่นชัดมากของร้านนี้คือ รูป และ สัมผัส ด้วยการตกแต่งร้านที่เรียกว่า "จัดเต็ม" บรรยากาศภายในร้านตกแต่งไปด้วยของสะสมน่ารักๆ และ คลาสสิคสไตล์อังกฤษอยู่มากมาย นำมาจัดตกแต่งในมุมต่างๆ ภายในร้าน มองไปทางไหนก็สวย น่าถ่ายรูปไปหมด แต่....ร้านนี้ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟสวยๆ น่าถ่ายรูป เหมือนร้านอื่นๆ ... ร้านนี้คือ "ของจริง" ของทุกอย่างที่ประดับตกแต่งในร้านนั้น เห็นได้ชัดว่า เป็นของเก่า ของสะสม ซื้อหามาจากหลายๆ ที่ ค่อยๆ สะสมผ่านกาลเวลามา ด้วยความชอบ ความหลงใหลในสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา ถ้วย จาน ชาม ตุ๊กตา โคมไฟ รูปภาพ ภาพปักครอสติส หมอนอิง ผ้าปู โต๊ะ เก้าอี้
โต๊ะ เก้าอี้ และของประดับโต๊ะ แต่ละชุดในร้านนี้จะไม่เหมือนกันเลย ทุกอย่างภายในร้านมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แทรกอยู่ แม้แต่ตุ๊กตาที่ประดับอยู่บนชั้น ยังมีชื่อผูกติดไว้ด้วย เรียกว่า เดินเที่ยวชมดูของสะสมในร้านได้เพลิดเพลินมากๆ เลยล่ะค่ะ

(ชื่อบนตัวตุ๊กตา)
เท่าที่บรรยายมา เราสัมผัสถึง "บุคลิก" ของแบรนด์ หรือ ร้านได้ว่า เป็นผู้หญิง เป็นนักสะสมตัวยง เป็นคนมีรสนิยม เป็นคนละเอียดอ่อน ใส่ใจในทุกรายละเอียด ชอบและให้คุณค่ากับงานฝีมือ
ถัดมา คือเรื่องของ เสียง ซึ่งโดยส่วนมากจะเข้าใจว่าหมายถึงเสียงเพลง แต่จริงๆ แล้ว หมายถึง เสียงทุกอย่างที่เกิดภายในร้าน เสียงลูกค้าคุยกัน เสียงทานอาหาร เสียงพนักงาน เสียงจานชาม เป็นต้น ลองนึกถึงบรรยากาศร้านข้าวต้มโต้รุ่ง เราก็จะนึกถึง เสียงล้งเล้งๆ ผู้คนคุยกันจ็อกแจ็กจอแจ เสียงผู้คนกินอาหารช้อนส้อมกระทบชามก๊องๆ แก๊งๆ นั่นเอง
ในส่วนของเสียงนี้ ภายในร้าน Hacienda เป็นร้านบรรยากาศสงบๆ ตามสไตล์ เปิดเพลงเปียโนบรรเลงคลอเบาๆ เป็นเพลงคุ้นหูในระดับที่พอจะฮัมตามได้ มีเสียงกระพรวนกรุ๋งกริ๋งที่ประตูเวลาที่มีลูกค้าใหม่เข้ามาภายในร้านบ้างเป็นระยะ นอกจากนี้ เรายังสังเกตเห็นว่า มีปุ่มไฟที่มุมบนขวาอยู่สามสี และไฟจะสว่างเป็นระยะ เป็นการส่งสัญญาณว่า อาหารเสร็จแล้วให้นำไปเสริฟให้กับลูกค้าได้นั่นเอง เป็นการสื่อสารกันระหว่างในครัวกับพนักงานโดยไม่มีเสียงรบกวนลูกค้าเลย เห็นได้ชัดว่า มีการจัดการ และ วางแผนมาดี ใส่ใจกับความเป็นส่วนตัวของลูกค้า กรณีลูกค้ามาคุยงานหรือคุยธุรกิจกัน นอกจากนี้ ภายในร้าน มีโต๊ะ และ ห้องในโซนต่างๆ หลายโซนให้เลือกนั่งตามความไพรเวทที่ต้องการด้วย
ถัดมา คือเรื่องของ กลิ่น เรื่องของกลิ่นนี้มีอิทธิพลไม่น้อย แต่มักจะเป็นสิ่งที่คนมองข้าม เพราะ กลิ่น เป็นประสาทสัมผัสแรกที่คนเราสัมผัสได้ และ กลิ่นไปได้ไกลด้วย เช่น ได้กลิ่นปิ้งขนมปังหอมๆ ลอยมาแต่ไกล ก็นึกอยากกินแล้วเดินตามกลิ่นมาถึงร้าน จึงจะเกิดการรับรู้อื่นๆ ตามมา อย่างร้านน่ารักจัง เป็นต้น โดยส่วนมากร้านกาแฟ หรือ ร้านขนม ก็จะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว เพียงแต่เจ้าของร้านอาจจะคิดถึงเรื่องครัว ว่าจะกันออกไป หรือต้องการให้อยู่ในส่วนของร้าน เพราะหวังจะให้มีกลิ่นหอมจากการปรุงเพื่อกระตุ้นความอยากของลูกค้า ก็ต้องวางแผนเรื่องการปรุงอาหารให้ดี เพราะจะมีทั้งเสียงและกลิ่นเข้ามาเป็นบรรยากาศของร้าน หรือหากร้านกาแฟจะมีเมนูอาหารด้วย กลิ่นอาหารเวลาปรุง เวลาเสิร์ฟ จะรบกวนลูกค้าคนอื่นไหม เป็นต้น
สัมผัสสุดท้าย คือ เรื่อง รส เพื่อนๆ ที่ทำร้านอาหาร ร้านกาแฟ อาจจะให้ความสำคัญกับรสชาติ วัตถุดิบต่างๆ แต่จริงๆ แล้วลูกค้ากลับจะได้สัมผัสสิ่งนี้เป็นสิ่งสุดท้าย ลูกค้าก้าวเข้าร้านมาสัมผัสสิ่งต่างๆ ภายในร้านทั้งรูป กลิ่น เสียง สัมผัส มาก่อนจึงจะเกิดการสั่งเมนู แล้วทานเข้าไปรับรสเป็นสิ่งสุดท้าย (ปล. สำหรับร้าน Hacienda เราสั่งเมนูขนมหวาน มา 1 อย่าง เนื่องจากอิ่มจากที่อื่นมาแล้ว รสชาติขนมก็เป็นที่ประทับใจดีค่ะ)

ดังนั้น หากร้านที่ประสบปัญหาลูกค้าไม่เข้าร้าน ทั้งๆ ที่ทุกอย่างภายในร้านก็เป็นของดี ราคาขายก็ไม่แพง ร้านก็สวย ทำไมลูกค้าไม่เข้าร้าน ยอดขายไม่ดี อาจจะต้องกลับมาทบทวน หาจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเอง แล้ว ดึงดูดลูกค้าให้ได้ในสไตล์ของตัวเอง และที่สำคัญ ทำให้ถูกจริตของลูกค้ากลุ่มที่เราต้องการ ไม่จำเป็นต้องทำร้านกาแฟสวยๆ เหมาะกับการถ่ายรูปเก๋ๆ เสมอไปก็ได้นะคะ
อย่าลืมสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าสำคัญคือ ทำสิ่งเหล่านั้นอย่างมีความสุข (เพราะมันจะทำให้เรามีแรง มีไฟจะทำมันทุกๆ วัน และลูกค้าสัมผัสได้ เหมือนอย่างที่เราได้สัมผัสถึงความสุขในการสร้างร้าน Hacienda นี้)