ได้อ่านหนังสือเรื่อง "ธุรกิจสร้างสุข The business for hapiness : Japanese style" โดย พิชชารัศมิ์ marumura

เจอบทความหนึ่งอยากเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกัน👇👇
กลุ่มสหกรณ์การเกษตรอูมาจิ เป็นกลุ่มที่ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดในญี่ปุ่น
จากเดิมธุรกิจหลักของหมู่บ้านคือ อุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งภายหลังซบเซาลงจนคนหนีไปทำงานในเมือง ในหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย และตอนนั้น รัฐบาลได้สนับสนุนให้แต่ละภูมิภาคปลูกผลไม้เฉพาะท้องถิ่น และหมู่บ้านนี้เลือกปลูกส้มยูซุ
🍊🍊ส้มยูซุสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้หลายอย่าง แต่คนจากที่อื่นไม่ค่อยรู้จัก แรกๆ สหกรณ์ก็ปลูกส้มขาย พยายามขายส้ม แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ การแข่งขันสูง ขายไม่ได้ราคา ฯลฯ
หัวหน้าสหกรณ์เลยคิดแปรรูปสินค้า #โดยหลักคิดคือสินค้านั้นต้องเป็นของที่คนกลับมาซื้อซ้ำได้ เขาพัฒนาสินค้าออกมาเป็น น้ำส้มยูซุผสมน้ำผึ้ง และซอสเปรี้ยวพอนสึ
เขาจำหน่ายสินค้าโดยการขายตรงไปยังผู้บริโภคเลย เพราะไม่ได้ใส่สารกันบูด ทำให้อายุเชล์ฟสั้น วางจำหน่ายในช่องทางทัวไปยาก ช่วงแรกก็ยังขายได้ไม่มาก แต่ลูกค้าหน้าเดิมมักจะวนกลับมาซื้อซ้ำอีก ทำให้มั่นใจว่ามาถูกทาง
หลังจากนั้นก็เริ่มออกบูทตามงานเทศกาลอาหาร โฆษณาทีวี หนังสือพิมพ์ และในอินเตอร์เนท ก็เริ่มมีออเดอร์มากขึ้น
#เพื่อให้สินค้าดูน่าสนใจมากขึ้นจึงมีการออกแบบฉลากใหม่ มีการอธิบายคอนเซปกับดีไซเนอร์ แต่พอได้แบบก็ต้องตกใจเพราะ #แบบไม่ได้อย่างที่คิดเลย มันดูเหมือนของเล่นเด็กมาก แต่ด้วยความกลัวดีไซเนอร์เสียใจ เพราะดีไซเนอร์ตั้งใจนำเสนอความสงบสุขและสุขภาพที่ดีแบบชาวชนบท
ดีไซเนอร์ตั้งชื่อ น้ำส้มยูซุผสมน้ำผึ้งว่า "เจ้าเอื๊อกบ้านอูมาจิ" และซอสเปรี้ยวพอนสึ ชื่อว่า "หมู่บ้านยูซุ" #แทนที่จะเน้นการโปรโมทตัวสินค้าดีไซเนอร์กลับโปรโมทภาพลักษณ์หมู่บ้านแทน แต่หลังจากเปลี่ยนหีบห่อและชื่อแล้ว ไม่น่าเชื่อว่า #ยอดขายพุ่งสูงจนผลิตไม่ทัน แถมยังได้รับรางวัล "ผลิตภัณฑ์ 101 หมู่บ้านญี่ปุ่น" อีกด้วย

🛤🌄 นอกจากสินค้าจะขายดีแล้ว อูมาจิยังเป็นหมู่บ้านที่ลูกค้าอยากมาเที่ยวด้วย เพราะมีภาพลักษณ์ที่สงบสุขธรรมชาติสวยงาม ทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของหมู่บ้านเฟื่องฟูขึ้นด้วย
ทุกท้องที่จะมีความโดดเด่นของตัวเอง หากเราเชื่อมั่น รู้วิธีพัฒนาและสร้างความแตกต่างให้สินค้า ก็สามารถประสบความสำเร็จได้นะคะ 😃🔥