
เครดิตรูปภาพจาก MyTest
เทคโนโลยีที่ใช้ในการพิมพ์วันที่ผลิตและวันหมดอายุมีมากมายหลายแบบ หลายราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักแสน แต่ละแบบก็จะมีความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันไป บางชนิดเหมาะสำหรับพิมพ์บนของแบนๆ บางชนิดพิมพ์บนผิวโค้งหรือผิวไม่เรียบได้ บางชนิดได้ความเร็วมาก บางชนิดเน้นพกพาไปในที่ต่างๆ ขนาดของตัวอักษร จำนวนแถวที่พิมพ์ได้
เพื่อให้เข้าใจง่าย เราแบ่งหมวดหมู่ตามสเกลของเครื่อง โดยยังไม่ได้ลงลึกไปในรายละเอียดของแต่ละเทคโนโลยีให้อ่านกันก่อนจ้า
1. พิมพ์วันที่หมดอายุ แบบมือโปร
เครดิตรูปภาพจาก bazarpk.com
- เครื่องพิมพ์ราคาหลักแสน
- เหมาะสำหรับสินค้าที่จัดจำหน่ายจำนวนมาก
- โดยส่วนมาก จะเป็นโรงงานผู้ผลิตสินค้า OEM ขนาดใหญ่ (คนที่จ้างผลิตจำนวนมาก โรงงานผู้ผลิตก็จะยิงวันที่หมดอายุให้เรียบร้อย พร้อมขาย จึงไม่ค่อยมีปัญหาสำหรับกลุ่มนี้)
- บริษัทรับบรรจุสินค้าแยก รีแพค ต่างๆ จะมีบริการรับยิงวันที่ให้ด้วย (เราเอาสินค้าไปให้ที่บริษัทพิมพ์วันที่ผลิตและหมดอายุให้ได้เช่นกัน) ควรหาบริษัทที่ใกล้กับสถานที่เราอยู่ เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายในการบริการพิมพ์วันหมดอายุแล้ว ยังมีค่าขนส่งที่ต้องส่งของไปๆ มาๆ นั่นเอง และควรสอบถามรายละเอียดว่าแพคเกจจิ้งแบบที่เราจะพิมพ์นั้น ทางบริษัทพิมพ์ได้หรือไม่ รวมถึง จำนวนขั้นต่ำในการรับพิมพ์ด้วย
2. พิมพ์วันที่หมดอายุ แบบมืออาชีพ


เครดิตรูปภาพจาก machinesiam.com / IndiaMART
- เครื่องพิมพ์ราคาหลักพันกลางๆ - หมื่น
- เหมาะกับโรงงานผู้ผลิตหรือ SME ระดับกลางที่มีจำนวนในการพิมพ์วันหมดอายุเป็นประจำ หรือไม่สะดวกจะเอาสินค้าออกไปให้ที่บริษัทรับยิงวันที่เป็นประจำ
3. พิมพ์วันที่หมดอายุ สำหรับกิจการขนาดเล็ก



- ชุดเซตตรายางสำหรับปั๊มวันที่ผลิตและวันหมดอายุ ราคาหลักร้อย-พันกลางๆ
- เหมาะสำหรับกิจการขนาดเล็กหรือ SME ขนาดเล็ก ที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า ทำสินค้าให้ได้มาตรฐาน หรือสินค้าประเภทของสด homemade ที่ผลิตวันต่อวัน หรือ สินค้ากลุ่มเครื่องสำอางที่มีการผลิตไม่มากนัก แต่มีสินค้าและแพคเกจจิ้งที่หลากลายรูปแบบ
สนใจสั่งซื้อ ชุดอุปกรณ์ตรายางพิมพ์วันหมดอายุ คลิกที่นี่ หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางไลน์