อยากพิมพ์สีทอง บนสติ๊กเกอร์หรือการ์ดต่างๆ ทำได้กี่วิธี?
เพื่อนๆ ที่อยากเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ด้วยการใช้งานพิมพ์หรือสติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้าที่มีสีทองในงาน เพราะว่าอยากให้ดูหรูหรามีราคา แต่หลังจากที่ออกแบบมาแล้ว ต้องการจะมาสั่งพิมพ์ก็มักจะปวดหัวกับการหาโรงพิมพ์ที่พิมพ์งานให้ บางที่ก็ไม่รับ บางที่ก็กำหนดจำนวนขั้นต่ำ บางที่รับพิมพ์จำนวนน้อย แต่ราคาต่อดวงต้นทุนก็สูงมาก
วันนี้ PaperStudio จะมาสรุปให้ฟังกัน ว่า ณ เวลานี้ ด้วยเทคโนโลยี มีกี่วิธีที่สามารถพิมพ์สีทองได้บ้าง และแต่ละวิธีเหมาะกับงานแบบไหน จำนวนเท่าไหร่ให้อ่านกันจ้า
1. สีทองแบบกราฟิก วิธีนี้เป็นวิธีแบบเบสิกใช้เครื่องพิมพ์ปกติทั่วไปได้ ใช้การไล่โทนสีในโปรแกรมออกแบบ สร้างเอฟเฟกให้แลดูคล้ายสีทอง หากกราฟิกทำเอฟเฟกได้ดี ก็สามารถช่วยให้งานออกมาดูดีได้ค่ะ
เหมาะสำหรับ : การพิมพ์งานจำนวนน้อย งานเร่งด่วน งานที่มีงบน้อย

2. การปั๊มเคฟอยล์ เป็นกระบวนการทำให้เกิดสีทองเงาสะท้อนแสงสวยงามบนงานพิมพ์ที่มีมานาน แต่มีกระบวนการขั้นตอนในการพิมพ์หลายขั้นตอน เราสามารถเรียกว่าเทคนิคการปั๊มเค หรือปั๊มฟอยล์ก็ได้ ซึ่งฟอยล์จะมีลักษณะเป็นม้วน มีหลายสีให้เลือกใช้
ม้วนฟอยล์สำหรับปั๊มเค
ในกระบวนการพิมพ์สติ๊กเกอร์ปั๊มเคทองนี้ จะต้องมีการทำบล็อกสำหรับปั๊ม และม้วนฟอยล์ โดยบล็อกปั๊มนี้จะต้องร้อน และใช้แรงกดกระแทกผ่านม้วนฟอยล์ ทำให้ฟอยล์ไปติดอยู่บนกระดาษหรือสติ๊กเกอร์ ดังวิดีโอ
ด้วยกระบวนการผลิตที่ต้องมีค่าอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้ต้นทุนการผลิตครั้งแรกสูงกว่าวิธีอื่นๆ จึงไม่เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่มีจำนวนน้อยกว่า 1,000 ดวง เพราะต้นทุนค่าอุปกรณ์หารเฉลี่ยออกมาต่อดวง ราคาสูง แต่เมื่อผลิตจำนวนมาก ต้นทุนจึงลดลง หรือเราสามารถสั่งพิมพ์แบบลวดลายอาร์ตเวิร์กแตกต่างกัน แต่ตำแหน่งที่ต้องการปั๊มทองอยู่ที่เดียวกัน เพื่อลดต้นทุนค่าอุปกรณ์ได้
ข้อดีคือ งานพิมพ์ที่ออกมาสวยโดดเด่น ด้วยฟอยล์เงาสีสดใส สะท้อนแสง ช่วยให้สินค้าดูมีราคาและโดดเด่นขึ้นมา
นิยมใช้กับสินค้าที่มีราคา อาทิเช่น เครื่องสำอางค์ อาหารเสริม หรือ ฉลากสินค้าอาหารบางชนิดที่ต้องการแสดงความพรีเมี่ยมที่แตกต่างจากคู่แข่ง
เหมาะสำหรับ : สินค้าที่จับลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม สินค้าราคาสูง มีตลาดการขายที่แน่นอนแล้ว สามารถผลิตจำนวนมากๆ ได้

3. สีทองฟอยล์จากการรีดร้อน เป็นวิธีการพิมพ์ฟอยล์แบบ DIY โดยการปริ้นท์ลายส่วนที่ต้องการให้เป็นสีทองด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ด้วยหมึกสีดำ แล้วใช้ฟอยล์ที่ใช้สำหรับรีดร้อนโดยเฉพาะ คว่ำด้านเงาประกบกับลาย แล้วนำเข้าเครื่องเคลือบบัตร ฟอยล์ก็จะมาติดลงบนบริเวณสีดำที่เราปริ้นท์ไว้นั่นเอง
แลดูง่าย อีซี่ ต้นทุนต่ำสุดๆ เลย แต่ก็มีข้อจำกัดคือ ทำได้บนกระดาษ สติ๊กเกอร์ส่วนใหญ่ไม่ทนความร้อนขนาดที่จะเข้าเครื่องเคลือบบัตรได้ และ การพิมพ์ฟอยล์ด้วยวิธีนี้ มักจะไม่ทนการขูดขีด มีอายุการใช้งานสั้นๆ ก็ลอกถลอก
เหมาะสำหรับ : งานพิมพ์ฟอยล์ทองบนการ์ด บนกระดาษต่างๆ อาทิเช่นงานแต่งงาน งานบวช งานที่ใช้งานรวดเร็ว ไม่เน้นตั้งโชว์นานๆ ส่วนมากร้านที่รับทำงานประเภทนี้จะเป็นร้านถ่ายเอกสาร

4. ใช้สติ๊กเกอร์ฟอยล์ คือ การใช้วัสดุพิมพ์ที่เป็นฟอยล์ทั้งแผ่น แล้วนำมาพิมพ์สีบนฟอยล์ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องพิมพ์หลายๆ รุ่นที่สามารถพิมพ์หมึกสีขาวได้ ก็จะใช้วิธีพิมพ์สีขาวกลบฟอยล์ แล้วพิมพ์สีอื่นๆ ทับ ก็จะช่วยให้ได้งานพิมพ์ฉลากสินค้าที่มีฟอยล์เงาในบางบริเวณได้เช่นกัน ส่วนมาก มักจะคิดราคาเป็นตารางเมตร ทั้งนี้ ต้องดูคุณภาพของฟอยล์ที่แต่ละร้านเลือกใช้ด้วย ทั้งคุณภาพกาวและความหนาของฟอยล์ ถ้าฟอยล์บางมาก มักจะฉีกขาดได้ง่าย
เหมาะสำหรับ : งานสติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้าที่ต้องการพิมพ์ฟอยล์แบบจำนวนน้อย

5. พิมพ์ด้วยหมึกสีทอง เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์ใหม่ ที่สามารถพิมพ์หมึกสีทองมีเกล็ดประกายทองระยิบระยับเล็กๆ แต่ไม่สะท้อนแสงเงาเท่ากับการปั๊มเคทอง แต่สามารถพิมพ์งานจำนวนน้อยได้

เหมาะสำหรับ : งานสติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้าที่ต้องการจับกลุ่มตลาดสินค้าพรีเมี่ยม High-end และต้องการทดลองตลาด
นอกจากระบบการพิมพ์ที่เขียนไว้นี้ ยังมีเทคโนโลยีในการพิมพ์อื่นๆ ที่มีการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์เพื่อนๆ พ่อค้าแม่ค้า SME ผู้ที่เริ่มต้น ได้ทำฉลากสินค้าสวยๆ ทดลองวางตลาดกัน ถ้ามีอัพเดท ชาว paperstudio ไม่พลาดที่จะมาให้ความรู้ คำแนะนำกับเพื่อนๆ แน่นอนจ้า
ดูรายละเอียดและราคาสั่งพิมพ์สติ๊กเกอร์ คลิก
สอบถามรายละเอียดทางไลน์

#สติ๊กเกอร์สีทอง #สติ๊กเกอร์พิมพ์ทอง #สติ๊กเกอร์สีทองจำนวนน้อย #สติ๊กเกอร์สีทองไม่มีขั้นต่ำ #Paperstudio